ในปี 2025 เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ แต่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การทำงาน การเรียน ไปจนถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์ หลายบริษัทและนักพัฒนาได้สร้างเครื่องมือ AI ที่ช่วยลดเวลา เพิ่มคุณภาพ และทำให้ทุกคนสามารถสร้างผลงานระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น

บทความนี้จะพาไปรู้จัก 15 เครื่องมือ AI ที่น่าสนใจ พร้อมทั้งวิเคราะห์ว่าใครควรใช้ และเหมาะกับงานประเภทไหน


  1. ChatGPT – ผู้ช่วยสารพัดประโยชน์

ChatGPT คือ AI แชทบอทที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม เขียนบทความ สรุปเนื้อหา แปลภาษา หรือสร้างสรรค์ข้อความเชิงสร้างสรรค์ จุดแข็งคือ “ความยืดหยุ่น” และ “การโต้ตอบแบบมนุษย์”

เหมาะสำหรับ: นักเขียน, นักเรียน, นักวิจัย, ผู้ที่ต้องใช้ข้อความบ่อย


  1. Reccloud – ผู้ช่วยประชุมดิจิทัล

ใครที่ต้องประชุมบ่อย ๆ จะชอบ Reccloud เพราะสามารถถอดเสียงพูดเป็นข้อความ สรุปการประชุม และสร้างรายการการกระทำ (Action Items) ได้ทันที ลดปัญหาการจดโน้ตไม่ทัน และทำให้การติดตามงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เหมาะสำหรับ: ทีมงานธุรกิจ, ผู้บริหาร, นักศึกษา


  1. Tome – สร้างสไลด์ในไม่กี่นาที

เพียงแค่ใส่หัวข้อที่ต้องการ Tome ก็จะสร้างพรีเซนเทชันและออกแบบสไลด์ให้อัตโนมัติ ทำให้การทำงานที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที

เหมาะสำหรับ: ครู อาจารย์, พนักงานบริษัท, นักการตลาด


  1. Pika – สร้างวิดีโอจากข้อความ

Pika ช่วยให้คุณสร้างวิดีโอสั้น ๆ เพียงพิมพ์คำอธิบายฉากที่ต้องการ ระบบจะสร้างวิดีโอออกมาให้ทันที จุดเด่นคือเหมาะกับครีเอเตอร์ที่อยากทำคอนเทนต์เร็ว ๆ โดยไม่ต้องมีทักษะตัดต่อ

เหมาะสำหรับ: ยูทูบเบอร์, นักการตลาดออนไลน์, ครีเอเตอร์ TikTok


  1. Gamma – พรีเซนเทชัน + เว็บเพจในเวลาเดียวกัน

คล้ายกับ Tome แต่ไปไกลกว่า เพราะสามารถสร้างทั้งพรีเซนเทชันและหน้าเว็บเพจที่ดูเป็นมืออาชีพได้ จุดเด่นคือความสวยงามและความเร็วในการทำงาน

เหมาะสำหรับ: นักออกแบบ, ทีม Startup, ฟรีแลนซ์


  1. Suno – สร้างเพลงจากข้อความ

เพียงพิมพ์คำบรรยายหรือกำหนดแนวเพลง Suno จะสร้างเพลงพร้อมดนตรีและเนื้อร้องให้ทันที นับว่าเป็นเครื่องมือที่ปฏิวัติวงการดนตรี เพราะแม้ไม่มีความรู้ด้านดนตรีก็แต่งเพลงได้

เหมาะสำหรับ: นักแต่งเพลง, ครีเอเตอร์คอนเทนต์, ผู้ทำโฆษณา


  1. PicWish – รีทัชและลบพื้นหลังอัตโนมัติ

เหมาะสำหรับคนที่ต้องแต่งภาพบ่อย ๆ เช่น ขายของออนไลน์ หรือทำคอนเทนต์โซเชียล PicWish ทำได้ทั้งลบพื้นหลัง รีทัช และเพิ่มความละเอียดของภาพ

เหมาะสำหรับ: ร้านค้าออนไลน์, นักออกแบบกราฟิก


  1. Perplexity – เสิร์ชเอนจินที่คิดแทนคุณ

Perplexity ไม่ได้แค่หาข้อมูล แต่ยังสรุปคำตอบจากหลายแหล่งพร้อมระบุที่มา ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลถูกต้องและน่าเชื่อถือ

เหมาะสำหรับ: นักวิจัย, นักเรียน, คนที่ต้องการข้อมูลจริงจัง


  1. Krea – สร้างภาพและวิดีโอคุณภาพสูง

Krea โดดเด่นด้านงานสร้างสรรค์ภาพและวิดีโอ ทั้งการวาดภาพ ปรับแต่ง และสร้างวิดีโอคุณภาพสูง เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดและความสมจริง

เหมาะสำหรับ: ศิลปินดิจิทัล, นักโฆษณา


  1. Fliki – แปลงบทความเป็นวิดีโอ

ถ้ามีบทความหรือสคริปต์ Fliki สามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นวิดีโอพร้อมเสียงบรรยายและภาพประกอบได้ทันที เหมาะสำหรับคนที่ต้องทำคอนเทนต์จำนวนมาก

เหมาะสำหรับ: นักเขียนบล็อก, นักการตลาด


  1. Runway – สตูดิโอสร้างวิดีโอระดับมืออาชีพ

Runway มีฟีเจอร์ Text-to-Video และ AI Video Editing เช่น ลบวัตถุในวิดีโอ เปลี่ยนฉาก ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถทำวิดีโอคุณภาพสูงได้แม้ไม่มีทักษะตัดต่อ

เหมาะสำหรับ: ผู้ผลิตวิดีโอ, ทีมโฆษณา, โปรดักชันเฮาส์


  1. Relume – นักออกแบบเว็บอัตโนมัติ

ไม่ต้องเริ่มสร้างเว็บไซต์จากศูนย์ Relume จะช่วยสร้างโครงสร้างและเนื้อหาเว็บไซต์ที่พร้อมใช้งานได้ทันที เหมาะกับผู้ที่อยากทำเว็บเร็ว ๆ

เหมาะสำหรับ: ฟรีแลนซ์เว็บดีไซน์, เอเจนซี, ผู้ประกอบการ SME


  1. LumaLabs – วิดีโอ 3 มิติ และโลกเสมือนจริง

จุดเด่นคือการสร้างวิดีโอ 3D และภาพเสมือนจริง (Photorealistic 3D) เหมาะสำหรับงานโฆษณา เกม หรือการนำเสนอที่ต้องการความสมจริงขั้นสูง

เหมาะสำหรับ: นักพัฒนาเกม, โปรเจกต์ VR/AR


  1. Descript – แก้ไขเสียงและวิดีโอเหมือนแก้เอกสาร

Descript สามารถถอดเสียงพูดเป็นข้อความ และแก้ไขเสียง/วิดีโอได้เหมือนการแก้ไฟล์ Word ทำให้การทำงานง่ายและรวดเร็วขึ้น

เหมาะสำหรับ: พอดแคสเตอร์, ยูทูบเบอร์, ทีมตัดต่อเสียง


  1. ElevenLabs – AI สร้างเสียงพูดสมจริง

ElevenLabs สร้างเสียงพูดจากข้อความได้อย่างเป็นธรรมชาติ สามารถใส่อารมณ์ น้ำเสียง และเลือกสไตล์การพูดได้หลากหลาย

เหมาะสำหรับ: งานพากย์, หนังสือเสียง (Audiobook), โฆษณา