Intel ออกมาแสดงท่าทีชัดเจนว่าปี 2026 จะเป็นปีสำคัญที่สุดปีหนึ่งต่ออนาคตของบริษัทในฐานะผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก โดย Dave Zinsner ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ได้กล่าวในงาน Global TMT Conference 2025 ของ Citi ว่าบริษัทจะใช้ปี 2026 เป็นจุดตัดสินชี้ชะตาในการเดินหน้าสู่กระบวนการผลิตชิปรุ่นใหม่ที่เรียกว่า 14A process (14 Ångström) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวล้ำที่สุด และมีความหมายต่อการคืนสถานะความเป็นผู้นำในตลาดชิปที่ Intel เคยครองมาก่อนหน้านี้
ที่ผ่านมา Intel ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะในกระบวนการผลิต 18A ที่ถูกวางไว้ให้เป็นฐานหลักของชิปรุ่นใหม่อย่าง Panther Lake แต่กลับมีปัญหาในเรื่องอัตราผลิตสำเร็จ (yield) ที่ต่ำมาก เพียงราว 10% ในขณะที่มาตรฐานที่ควรจะได้คือ 70–80% ขึ้นไป ส่งผลให้บริษัทต้องเร่งหาทางแก้ไขก่อนที่เทคโนโลยี 14A จะเริ่มต้น ซึ่งเรื่องนี้สะท้อนถึงความท้าทายที่ Intel ต้องฟันฝ่าเพื่อตามให้ทันหรือแซงหน้าคู่แข่งอย่าง TSMC และ Samsung ที่รุกตลาดด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวกระโดด
Zinsner ยังย้ำว่าการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต 14A จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมี คำมั่นสัญญาจากลูกค้าภายนอก ที่จะใช้จริง ไม่ใช่การลงทุนล่วงหน้าแบบ “สร้างไว้ก่อนแล้วลูกค้าจะตามมา” ซึ่งในอดีตเคยสร้างความเสี่ยงและภาระทางการเงินแก่บริษัทอย่างมาก แนวทางใหม่นี้สะท้อนปรัชญาการบริหารของผู้บริหารชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะซีอีโอ Lip-Bu Tan ที่ประกาศชัดว่า Intel จะเดินตามแนวคิด “สร้างสิ่งที่ลูกค้าต้องการในเวลาที่ต้องการ” มากกว่าการลงทุนล่วงหน้าโดยไม่รู้ผลลัพธ์
การวางหมากให้ปี 2026 เป็นปีตัดสินอนาคตของเทคโนโลยี 14A ไม่ได้หมายถึงเพียงการพัฒนาเชิงวิศวกรรม แต่ยังรวมถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจ การสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้า และความสามารถในการแข่งขันของ Intel ในตลาดโลก ปัจจุบันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังแข่งขันกันอย่างรุนแรง ทั้งในแง่ของกระบวนการผลิตขนาดเล็กลง ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และการรองรับความต้องการของตลาดใหม่อย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI), รถยนต์ไฟฟ้า (EV), และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ หาก Intel สามารถก้าวสู่ 14A ได้สำเร็จในปี 2026 ก็จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้บริษัทกลับมามีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอีกครั้ง แต่หากล้มเหลว ความเชื่อมั่นและส่วนแบ่งตลาดอาจถูกคู่แข่งช่วงชิงไปอย่างถาวร
กล่าวได้ว่า ปี 2026 คือเส้นแบ่งสำคัญของ Intel ระหว่างการฟื้นคืนสู่ความยิ่งใหญ่ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีการผลิตชิป หรือการถอยร่นให้กับคู่แข่งในตลาดที่แข่งขันกันดุเดือดที่สุดในโลก