OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT ออกแถลงการณ์ล่าสุดถึงมาตรการยกระดับความปลอดภัยของระบบ AI ภายหลังเกิดเหตุสลด เด็กวัย 16 ปีตัดสินใจอัตวินิบาตกรรม โดยมีรายงานว่าได้รับคำแนะนำบางส่วนจากการสนทนากับ ChatGPT ก่อนหน้านี้ แม้บริษัทจะได้เพิ่มระบบเตือนให้ติดต่อสายด่วนช่วยเหลือเมื่อพบการสนทนาที่เสี่ยงอันตรายแล้ว แต่เหตุการณ์ดังกล่าวได้จุดกระแสวิพากษ์ถึงความรับผิดชอบของ AI ต่อผู้ใช้งาน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน

แนวทางปรับปรุงที่ OpenAI ประกาศ

OpenAI ยืนยันว่าจะปรับปรุงระบบ ChatGPT อย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอีก โดยมาตรการสำคัญที่ประกาศมีดังนี้

  • ใช้โมเดลแบบ Reasoning เพิ่มการคิดเชิงลึกก่อนตอบ
    หากการสนทนาเกี่ยวข้องกับเนื้อหาละเอียดอ่อนหรือมีความเสี่ยง บริษัทจะเรียกใช้งานโมเดลที่ออกแบบมาเพื่อ “คิดเป็นขั้นตอน” อย่าง GPT-5-thinking และ o3 เพื่อประเมินอย่างรอบคอบก่อนให้คำตอบ

  • ความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
    OpenAI เตรียมทำงานร่วมกับเครือข่ายแพทย์และนักจิตวิทยาทั่วโลก เพื่อออกแบบแนวทางการตอบสนองของ AI ให้สอดคล้องกับมาตรฐานด้านสุขภาพจิต และให้คำปรึกษาที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน

  • ระบบ Parental Controls สำหรับเยาวชน
    ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถเชื่อมบัญชีของบุตรหลานเข้ากับตนเอง เพื่อกำหนดรูปแบบการตอบคำถาม ปิดการทำงานบางฟังก์ชัน และรับการแจ้งเตือนทันทีเมื่อพบการสนทนาที่เสี่ยงต่อความปลอดภัย

กำหนดการปรับปรุง

OpenAI ระบุว่าการปรับปรุงทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายใน 120 วัน ข้างหน้า ขณะที่ฟีเจอร์ Parental Controls จะเริ่มใช้งานได้เร็วที่สุดตั้งแต่เดือนหน้า

การประกาศครั้งนี้ตอกย้ำความท้าทายของอุตสาหกรรม AI ที่ต้องเผชิญแรงกดดันด้านจริยธรรมและความปลอดภัยมากขึ้น ท่ามกลางการใช้งานที่แพร่หลายทั้งในกลุ่มผู้ใหญ่และเยาวชน โดยเฉพาะเมื่อ AI เริ่มกลายเป็นเครื่องมือที่ผู้ใช้บางรายอาจนำมาใช้ในช่วงเวลาที่เปราะบางทางจิตใจ

ที่มา : OpenAI