การมาของ HMD Pulse 2 Pro ที่เพิ่งหลุดข้อมูลจากร้านค้าปลีกในสวิตเซอร์แลนด์ สร้างความสนใจไม่น้อยในตลาดสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น เพราะถึงจะจัดอยู่ในกลุ่มงบจำกัด แต่สเปกและฟีเจอร์ที่ให้มาถือว่าเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะกล้องความละเอียดสูงทั้งหน้าและหลังที่หายากในมือถือราคาเพียง ประมาณ 180 ยูโร หรือราว 7,000 บาท
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ กล้องหลัก 50MP พร้อม OIS ซึ่งมักพบในสมาร์ตโฟนระดับกลางขึ้นไป และยังมีกล้องหน้า 50MP สำหรับสายเซลฟี นับเป็นการชูจุดขายด้านการถ่ายภาพเต็มที่ ดีไซน์ตัวเครื่องยังถูกปรับใหม่ ใช้โมดูลกล้องแบบสองโทนสีที่ดูทันสมัยมากขึ้น ขณะที่หน้าจอขนาด 6.72 นิ้ว FHD+ แบบ IPS LCD แม้ยังมีขอบล่างค่อนข้างหนา แต่ก็ให้พื้นที่การแสดงผลกว้างและเหมาะกับการดูคอนเทนต์
ด้านประสิทธิภาพ Pulse 2 Pro ใช้ชิป Unisoc T615 จับคู่กับ RAM 6GB และความจุ 128GB (รองรับ microSD เพิ่มได้) แม้จะไม่แรงเทียบเท่า Snapdragon หรือ Dimensity ระดับกลาง แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นโซเชียล ดูวิดีโอ หรือเล่นเกมเบา ๆ อีกทั้งยังรัน Android 15 รุ่นล่าสุด ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่ผู้ใช้จะได้รับอัปเดตใหม่ทันทีโดยไม่ต้องรอ
แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดีสำหรับมือถือยุคนี้ รองรับการใช้งานเต็มวัน และแม้จะยังไม่เปิดเผยความเร็วชาร์จ แต่คาดว่าน่าจะรองรับระบบชาร์จเร็วพอสมควร
เทียบกับคู่แข่งในตลาดเดียวกัน
Redmi Note 13 4G/5G : จุดแข็งคือใช้ชิป Snapdragon และได้จอ AMOLED 120Hz แต่กล้องหน้าความละเอียดต่ำกว่า Pulse 2 Pro อย่างชัดเจน
Realme C67 : เน้นแบตเตอรี่และจอใหญ่เช่นกัน แต่กล้องหน้าความละเอียดอยู่แค่ 16MP เท่านั้น
Samsung Galaxy A15 5G : ได้ชื่อชั้นซัมซุงและ One UI ที่ลื่นไหล แต่ในราคาใกล้เคียงนี้มักได้กล้องหน้าเพียง 13MP ไม่สามารถเทียบด้านการถ่ายเซลฟีกับ Pulse 2 Pro ได้เลย
จากการเปรียบเทียบจะเห็นว่า Pulse 2 Pro เน้นความโดดเด่นเรื่องกล้องคู่ 50MP ทั้งหน้าและหลัง ซึ่งแทบไม่มีคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันที่ทำได้ แม้ชิป Unisoc T615 อาจไม่แรงเท่าคู่แข่ง แต่สำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับการถ่ายภาพและการใช้งานทั่วไป รุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง
โดยสรุป HMD Pulse 2 Pro คือสมาร์ตโฟนที่ชูความคุ้มค่าในงบจำกัด เน้นจุดขายเรื่องกล้อง ความจุที่เพิ่มได้ แบตอึด และซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุดอย่าง Android 15 หากราคาที่หลุดมาถูกต้องจริง ก็อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดของปีนี้ในกลุ่มสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น โดยคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน IFA Berlin 2025 และมีแนวโน้มวางขายในตลาดยุโรปเป็นกลุ่มแรก