Qualcomm ใช้เวที Snapdragon Summit ที่ Maui, Hawaii ในปีนี้เปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 5 (SM8850-AC) ชิปเรือธงรุ่นใหม่ที่ทางบริษัทเรียกว่าเป็น “ชิปมือถือที่เร็วที่สุดในโลก” โดยรุ่นนี้ถูกพัฒนาต่อจาก Snapdragon 8 Elite ของปีที่แล้ว และมาพร้อมเทคโนโลยีการผลิตขนาด 3 นาโนเมตรที่ล้ำกว่ารุ่นก่อนหน้า

หนึ่งในจุดเด่นสำคัญคือการอัปเกรดสถาปัตยกรรม CPU Oryon รุ่นที่สาม ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิมถึง 20% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 35% โครงสร้างของ CPU เป็นแบบ 2+6 ประกอบด้วยคอร์ประสิทธิภาพสูงสองตัวที่วิ่งได้ถึง 4.6GHz และคอร์ประสิทธิภาพทั่วไปอีกหกตัวที่ทำงานสูงสุด 3.62GHz นอกจากนี้ยังมาพร้อม GPU Adreno รุ่นใหม่ที่ Qualcomm ไม่ได้เปิดชื่อ แต่ยืนยันว่าประสิทธิภาพด้านกราฟิกดีขึ้น 23% ประหยัดพลังงานกว่าเดิม 20% และรองรับการเรนเดอร์แบบ Ray Tracing ได้ดีกว่ารุ่นก่อน 25% ส่งผลให้การเล่นเกมสมจริงขึ้น รองรับ Unreal Engine 5 และเทคนิคอย่าง Mesh Shading กับ Tile Memory Heap ที่ช่วยจัดการการใช้หน่วยความจำอย่างมีประสิทธิภาพ

Qualcomm เคลมว่าประสิทธิภาพโดยรวมทำให้การเล่นเกมต่อเนื่องสามารถยืดเวลาออกไปได้เกือบ 1 ชั่วโมง 48 นาทีต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว ซึ่งสะท้อนถึงทั้งความแรงและความประหยัดพลังงานในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่าในปี 2025 การพูดถึงชิปเซ็ตใด ๆ ก็มักต้องพ่วงเรื่อง AI มาด้วย และ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ก็ไม่ต่างกัน เพราะมันติดตั้ง Hexagon NPU ที่เร็วขึ้นถึง 37% พร้อมศูนย์ประมวลผล Sensing Hub รุ่นใหม่ที่ช่วยให้สมาร์ตโฟนรองรับ Agentic AI หรือผู้ช่วยอัจฉริยะที่เรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้แบบเรียลไทม์ สามารถให้คำแนะนำหรือทำงานล่วงหน้าได้โดยที่ข้อมูลยังถูกเก็บไว้บนอุปกรณ์เพื่อคงความเป็นส่วนตัว

ทางด้านการถ่ายภาพ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ก็มาพร้อมกับ Spectra AI ISP ที่ใช้การประมวลผลแบบ 20 บิตสามชุด พร้อมรองรับ Advanced Professional Video (APV) codec ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกที่แพลตฟอร์มมือถือมีเทคโนโลยีนี้ ทำให้สามารถบันทึกวิดีโอในระดับมืออาชีพได้โดยตรงจากสมาร์ตโฟน

สำหรับการนำไปใช้งานจริง Qualcomm ระบุว่าผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Samsung, Xiaomi, vivo, iQOO, Oppo, OnePlus, Realme, Honor, ZTE, nubia, RedMagic, Asus และ Sony ต่างเตรียมนำ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ไปใช้กับสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าตลาดมือถือเรือธงปี 2025 จะเต็มไปด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม

ที่มา : gsmarena