จีนกำลังเร่งตัวขึ้นสู่การเป็นประเทศที่ใช้งบวิจัยและพัฒนามากที่สุดในโลก จากรายงาน ดัชนีนวัตกรรมโลก (Global Innovation Index: GII) ที่ชี้ว่าช่องว่างด้านเงินทุนของภาคเอกชนกำลังแคบลงอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันภาพรวมของนวัตกรรมโลกกลับถูกบดบังด้วยแนวโน้มการลงทุนที่ชะลอตัว โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของ R&D ทั่วโลกในปีนี้จะอยู่ที่เพียง 2.3% ลดลงจาก 2.9% ในปีก่อน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2010
จีนยังคงครองตำแหน่งแหล่งยื่นขอสิทธิบัตรระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด โดยคิดเป็น ประมาณ 25% ของสิทธิบัตรทั้งหมดในปี 2024 ในขณะที่สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเยอรมนี ซึ่งรวมกันแล้วคิดเป็น 40% ของสิทธิบัตรทั่วโลก ต่างมีการยื่นขอลดลงเล็กน้อย การครอบครองสิทธิบัตรถือเป็นดัชนีชี้วัดสำคัญถึงพลังเศรษฐกิจและความสามารถทางอุตสาหกรรมของประเทศ
ด้าน Sacha Wunsch-Vincent ผู้ร่วมจัดทำรายงาน GII มองว่าการที่เยอรมนีตกไปอยู่ลำดับที่ 11 ไม่ควรถูกมองว่าน่ากังวลมากนัก เพราะยังไม่สะท้อนผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ในยุคประธานาธิบดีทรัมป์ ส่วน Daren Tang ผู้อำนวยการใหญ่ WIPO เสริมว่า ความท้าทายที่แท้จริงของเยอรมนีคือการก้าวจากการเป็น “เครื่องยนต์แห่งนวัตกรรมอุตสาหกรรม” ที่แข็งแกร่งมายาวนาน ไปสู่การเป็น “มหาอำนาจนวัตกรรมดิจิทัล”
สำหรับประเทศใน Top 10 ล่าสุดตามดัชนี ได้แก่ สหรัฐฯ (อันดับ 1) ตามด้วยจีนที่กำลังไต่อันดับขึ้นมา ขณะที่เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อังกฤษ ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก ต่างก็อยู่ในกลุ่มผู้นำด้านนวัตกรรมเช่นกัน
ที่มา : reuters
