จากกรณีอาคารใหม่ที่กำลังก่อสร้างภายในพื้นที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เกิดพังถล่มลงมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 4.8 แมกนิจูดในพื้นที่ภาคกลาง ส่งผลให้โครงสร้างบางส่วนของอาคารเสียหายอย่างรุนแรง และทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความมั่นคงของโครงสร้างอาคารและมาตรฐานการก่อสร้าง

ล่าสุด วันที่ 30 เมษายน 2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (พฐ.ตร.) และกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อตรวจสอบและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นจุดสำคัญบริเวณ “ปล่องลิฟต์” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงสร้างหลักของอาคารที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว

เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องมือวิเคราะห์ทางวิศวกรรม เช่น เครื่องสแกนโครงสร้างภายใน ระบบวัดแรงดึงของเหล็กเสริม และอุปกรณ์ตรวจสอบรอยแตกร้าว มาใช้ในการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อประเมินว่าจุดปล่องลิฟต์มีบทบาทต่อการถล่มของอาคารมากน้อยเพียงใด และมีความเกี่ยวข้องกับความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่

ทาง DSI ระบุว่า แม้ต้นเหตุเบื้องต้นอาจเกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว แต่การตรวจสอบต้องครอบคลุมทุกปัจจัย โดยเฉพาะมาตรฐานการออกแบบโครงสร้าง ระบบการรับแรงสั่นสะเทือน และการควบคุมคุณภาพในระหว่างการก่อสร้าง

กรมโยธาธิการและผังเมืองอยู่ระหว่างตรวจสอบแบบก่อสร้างที่ได้รับอนุญาต เปรียบเทียบกับสิ่งปลูกสร้างที่เกิดขึ้นจริง เพื่อดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือขัดต่อหลักวิศวกรรมหรือไม่ ซึ่งผลวิเคราะห์เหล่านี้จะส่งให้ DSI เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินคดีหากพบข้อบกพร่องหรือความผิดทางกฎหมาย

คดีนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานอย่างรอบด้าน และต้องรอผลวิเคราะห์ทางวิศวกรรมจากหลายหน่วยงานก่อนจะสามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงของการพังถล่มได้ โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการอย่างโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกภาคส่วน

เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความตื่นตัวต่อความปลอดภัยของอาคารใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ และย้ำเตือนถึงความจำเป็นในการออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างที่ต้องมีมาตรฐานสูงสุด