ธนาคาร UBS ของสวิตเซอร์แลนด์รายงานผลกำไรไตรมาส 3 พุ่งขึ้นกว่า 74% แตะระดับ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เกือบสองเท่า อย่างไรก็ตาม ความสนใจของนักลงทุนกลับหันไปที่ปัญหาทางกฎหมายซึ่งอาจทำให้ธนาคารต้องเผชิญภาระผูกพันมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ จากกรณีการลบหนี้พันธบัตร AT1 ของ Credit Suisse มูลค่า 16.5 พันล้านฟรังก์สวิส (ราว 20.8 พันล้านดอลลาร์) ในช่วงที่ UBS เข้าซื้อกิจการคู่แข่งภายใต้การควบคุมของรัฐเมื่อปีที่ผ่านมา
UBS ระบุว่าจะ อุทธรณ์คำตัดสินของศาลสวิส ที่ชี้ว่าการตัดมูลค่าพันธบัตรดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิส (FINMA) ได้ยื่นอุทธรณ์ไปก่อนหน้านี้เช่นกัน นาย Todd Tuckner ประธานเจ้าหน้าที่การเงินของ UBS กล่าวยืนยันว่า “เราเชื่อว่าการลบหนี้ดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเราไม่เห็นว่าธนาคารจะมีภาระผูกพันใด ๆ จากคดีนี้” ทั้งนี้กระบวนการอุทธรณ์อาจใช้เวลาราวหนึ่งปี และหากมีการดำเนินการเพิ่มเติมอาจกินเวลาหลายปีต่อจากนั้น
แม้ผลประกอบการจะโดดเด่น หุ้นของ UBS ที่พุ่งขึ้นกว่า 2.5% หลังเปิดตลาดก็ปรับตัวลดลงในภายหลัง 0.9% หลังนักลงทุนกังวลต่อความไม่แน่นอนทางกฎหมายและแรงกดดันจากรัฐบาลสวิสให้เพิ่มทุนสำรอง เพื่อเสริมเสถียรภาพของระบบการเงินในประเทศ
ซีอีโอ Sergio Ermotti ยืนยันว่า ธนาคารยังคงเดินหน้าโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ภายในปีนี้ และยังมั่นใจในเป้าหมายทางการเงินระยะยาวถึงปี 2026 พร้อมเปิดเผยว่า UBS มีเงินทุนไหลเข้าส่วนบริหารความมั่งคั่งทั่วโลกกว่า 38 พันล้านดอลลาร์ และอีก 18 พันล้านดอลลาร์ในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ทำให้สินทรัพย์รวมภายใต้การจัดการของธนาคารแตะระดับเกือบ 7 ล้านล้านดอลลาร์
ในส่วนของธุรกิจธนาคารเพื่อการลงทุน รายได้เพิ่มขึ้น 52% ในส่วน Global Banking และ 14% ในส่วนการเทรดดิ้ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบหลายปี ขณะที่การควบรวม Credit Suisse มีความคืบหน้ามากกว่า 2 ใน 3 ของบัญชีลูกค้าทั้งหมดได้ถูกโอนเข้าสู่ระบบของ UBS แล้ว
แม้ UBS จะมีผลงานทางการเงินแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่การรวมกิจการกับ Credit Suisse เมื่อปี 2023 แต่ปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลก ค่าเงินฟรังก์สวิสที่แข็งค่า และภาษีสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ยังคงเป็นอุปสรรคต่อแนวโน้มในระยะต่อไป โดย UBS ระบุว่าความเชื่อมั่นของตลาดยังอ่อนไหวต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อกิจกรรมในตลาดทุน
นักวิเคราะห์จาก Citi และ Vontobel ต่างเตือนว่า แม้ผลประกอบการจะแข็งแกร่ง แต่ “ความไม่ชัดเจนในแบบจำลองธุรกิจและความเสี่ยงทางกฎหมาย” ยังคงเป็นปัจจัยกดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาหุ้นของธนาคารในระยะกลาง
การเติบโตของ UBS ในไตรมาสล่าสุดสะท้อนถึงความสามารถในการฟื้นตัวหลังการควบรวมกิจการครั้งประวัติศาสตร์กับ Credit Suisse แต่เส้นทางข้างหน้ายังคงเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งจากแรงกดดันด้านกฎระเบียบ คดีความที่ยังไม่สิ้นสุด และสภาพเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน
