ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังถูกแรงกดดันจากการผลิตล้นเกิน จีนซึ่งเป็นผู้บริโภคทองแดงรายใหญ่ที่สุดของโลกได้เริ่มดำเนินมาตรการใหม่เพื่อควบคุมซัพพลายวัตถุดิบสำคัญ โดยเฉพาะเศษทองแดงที่ใช้ในอุตสาหกรรมถลุงและการผลิตวัสดุจากทองแดงที่เกี่ยวพันกับอุตสาหกรรมหลัก ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

มาตรการที่รัฐบาลกลางผลักดันออกมามีเป้าหมายเพื่อลดความร้อนแรงของการแข่งขันด้านราคา (Price War) ภายในประเทศ หลังจากที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและสินค้าที่ใช้ทองแดงจำนวนมากเผชิญกับการตัดราคากันเองในตลาด จนทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะบั่นทอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การดำเนินการดังกล่าวจึงเริ่มจากการลดเงินสนับสนุนอุตสาหกรรมถลุงเศษทองแดงและการชะลอการผลิตวัสดุที่แปรรูปจากทองแดงลง ส่งผลให้โรงงานหลายแห่งจำเป็นต้องหันไปใช้ทองแดงบริสุทธิ์แทน แม้ว่าต้นทุนจะสูงกว่ามากก็ตาม

การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายนี้ทำให้คาดการณ์ว่า การผลิตทองแดงรีไซเคิลในจีนอาจหดตัวลงไม่ต่ำกว่า 30% ภายในเวลาอันสั้น นักวิเคราะห์จากหลายสถาบัน เช่น Shanghai Metals Market และ Mysteel ชี้ว่าปรากฏการณ์นี้จะทำให้ราคาทองแดงในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันราคาซื้อขายทองแดงในตลาดโลหะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่เกือบ 9,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน สะท้อนแรงกดดันจากฝั่งอุปทานที่ลดลงทันทีที่จีนเข้าคุมเข้ม

ย้อนกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนเป็นผู้นำเข้าทองแดงและเศษทองแดงรายใหญ่ที่สุดของโลก โรงงานในประเทศเร่งซื้อวัตถุดิบเหล่านี้จากทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป และหลายประเทศ เพื่อป้อนการผลิตที่เติบโตอย่างรวดเร็วในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ถือเป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่การผลิตที่มากเกินไปกลับนำไปสู่สินค้าล้นตลาด การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง และผลข้างเคียงคือการขาดแคลนวัตถุดิบสำคัญในประเทศเอง

การที่รัฐบาลจีนหันมาใช้มาตรการควบคุมจึงสะท้อนความพยายาม “เหยียบเบรก” ในจังหวะที่เศรษฐกิจภายในเผชิญกับแรงกดดันรอบด้าน อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในพรมแดนจีน เพราะเมื่ออุปทานทองแดงรีไซเคิลภายในหดตัวลง ความต้องการทองแดงบริสุทธิ์จะยิ่งเพิ่มขึ้น กดดันให้ตลาดโลกต้องปรับตัวตามไปด้วย และในที่สุดผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่ใช้ทองแดงทั่วโลกก็จะต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น

นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า “ทองแดง” ได้กลายเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการติดตามทั้งสงครามราคาภายในจีนและทิศทางการผลิตในอนาคต เพราะหากจีนยังเดินหน้าคุมเข้มต่อไป การเคลื่อนไหวของราคาทองแดงในตลาดโลกอาจเป็นสัญญาณบอกเล่าถึงการปรับสมดุลของเศรษฐกิจจีนและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมด

ที่มา : bangkokbiznews