เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ที่แฝงตัวมานานกว่าหนึ่งปี ภายใต้ชื่อ “HUAYFHA” ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์บุกทลายลงอย่างสิ้นซาก หลังสืบทราบพฤติกรรมการหมุนเวียนเงินจำนวนมหาศาลกว่า 200 ล้านบาทต่อปี และมีสมาชิกผู้เล่นมากกว่า 3,000 ราย โดยเบื้องหลังมีการจัดการอย่างเป็นระบบ ทั้งการโอนเงินผ่านบัญชีม้า การถอนเงินสดกลางดึก และการส่งต่อผลประโยชน์ให้ผู้บงการในพื้นที่กรุงเทพฯ
การแถลงข่าวครั้งใหญ่จัดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี โดยมี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วยทีมผู้บังคับบัญชาระดับสูง พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ และ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ร่วมกันเปิดเผยรายละเอียดการปฏิบัติการ
จากการสืบสวนโดย กก.2 บก.สอท.2 พบว่าเว็บ “HUAYFHA” มีระบบรับโอนเงินจากผู้เล่นเข้าสู่บัญชีธนาคารที่เตรียมไว้ ก่อนกระจายเงินไปหลายบัญชีเพื่อลดการตรวจสอบ เส้นทางการเงินยืนยันว่ามีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทต่อเดือน ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา 11 ราย จับกุมแล้วได้ 7 รายในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดอุตรดิตถ์
ผู้ต้องหาที่ถูกจับมีทั้งผู้ดูแลระบบหรือแอดมิน ผู้ถือบัญชีม้า และผู้ทำหน้าที่ถอนเงินสด หนึ่งในนั้นยังพบว่าเป็นเยาวชนอายุเพียง 19 ปี ซึ่งสะท้อนถึงการขยายเครือข่ายที่ดึงคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นห้องพักในซอยอ่อนนุช 25 และบ้านพักในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ พบเงินสดกว่า 50,000 บาท ตู้เซฟ รถยนต์ โน้ตบุ๊ก สมุดบัญชีธนาคาร และโทรศัพท์มือถือ รวมมูลค่าของกลางกว่า 1 ล้านบาท
ผลการสอบสวนเพิ่มเติมเปิดเผยว่า ผู้บงการใช้แอปพลิเคชัน Telegram เป็นช่องทางสั่งการ โดยสั่งให้ผู้ต้องหาตระเวนถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มในช่วงกลางคืนครั้งละหลายแสนบาท ก่อนนำไปรวมและส่งมอบให้ผู้รับผลประโยชน์ที่ศูนย์การค้าชื่อดังย่านรัชดาภิเษก ข้อมูลเชื่อมโยงว่ามีการส่งเงินให้ผู้มีอิทธิพลระดับ 1–2 ล้านบาทต่อเดือนอย่างต่อเนื่อง
คดีนี้ตำรวจแจ้งข้อหาหนักแก่ผู้ต้องหาทั้งหมด ทั้งการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่ง บช.สอท. ยืนยันว่าจะเดินหน้าขยายผลเพื่อเข้าถึงผู้บงการตัวจริง พร้อมย้ำว่าการกวาดล้างครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อตัดวงจรธุรกิจพนันออนไลน์ที่กำลังแพร่ระบาดในสังคมไทย
