อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ หลังเกิดการขาดแคลน “ชิปเซมิคอนดักเตอร์” จากเหตุความขัดแย้งระหว่างเนเธอร์แลนด์และจีน โดยรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้เข้ายึดการควบคุมบริษัทผลิตชิปรายสำคัญอย่าง Nexperia เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงทางเทคโนโลยี ส่งผลให้รัฐบาลจีนตอบโต้ด้วยการ สั่งห้ามส่งออกผลิตภัณฑ์ชิปของ Nexperia จากโรงงานในจีนทันที ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกตกอยู่ในภาวะขาดแคลนชิปอย่างกะทันหัน
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทั้ง Nissan Motor และ Mercedes-Benz ต่างออกมาเปิดเผยว่ากำลังประสบปัญหาการจัดหาชิปอย่างรุนแรง โดย Nissan ยอมรับว่ามีชิปสำรองเพียงพอใช้ถึง “สัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น” ก่อนที่สายการผลิตอาจได้รับผลกระทบ ขณะที่ Mercedes-Benz เผยว่ากำลัง “ค้นหาชิปจากทั่วโลก” เพื่อรักษาการผลิตในระยะสั้น พร้อมยอมรับว่าวิกฤติครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะไม่ได้เกิดจากปัญหาทางเทคนิคเหมือนช่วงโควิด แต่เป็น “ปัญหาทางการเมือง” ที่ต้องการการแก้ไขในระดับรัฐบาล
สถานการณ์ดังกล่าวลุกลามอย่างรวดเร็ว โดย Honda Motor ได้ประกาศหยุดสายการผลิตที่โรงงานในเม็กซิโกแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พร้อมปรับกำลังผลิตในโรงงานที่สหรัฐฯ และแคนาดา ส่วนในบราซิล รัฐบาลได้เตือนว่าหากวิกฤติยังดำเนินต่อไปอีก 2–3 สัปดาห์ โรงงานประกอบรถยนต์หลายแห่งอาจต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว
ชิปของ Nexperia ถูกใช้ในอุปกรณ์ยานยนต์หลายส่วน เช่น ระบบควบคุมไฟ ระบบเบรก และระบบความปลอดภัย ทำให้การขาดแคลนชิปครั้งนี้กระทบต่อทุกค่ายรถทั่วโลก ตั้งแต่รถยนต์สันดาปภายในไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของอุตสาหกรรม EV
ผู้บริหารจาก Lucid Motors เปิดเผยว่าทีมวิศวกรกำลังเร่งหาชิ้นส่วนทางเลือกเพื่อบรรเทาผลกระทบ และคาดว่าสามารถเลื่อนผลกระทบต่อแผนการผลิตออกไปได้ชั่วคราว ด้าน General Motors (GM) ระบุว่ายังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้โดยไม่มีผลกระทบต่อโรงงานในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทที่ปรึกษา Arthur D. Little เตือนว่า หากปัญหายืดเยื้อ ผู้ผลิตหลายรายอาจจำเป็นต้องใช้ “ชิ้นส่วนทดแทน” หรือ “หยุดสายการผลิตชั่วคราว” เพื่อรอความชัดเจน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และจีน เปิดการเจรจาเพื่อหาทางออก
วิกฤติครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของ “ห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก” ที่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจากหลายประเทศทั่วโลก ซีอีโอ Mercedes กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในรถยนต์ยุคใหม่หนึ่งคัน คุณแทบจะมีชิ้นส่วนจากทุกทวีปอยู่ในนั้น”
หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายภายในสิ้นปีนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกอาจต้องเผชิญการหยุดผลิตครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติโควิด-19 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย การส่งมอบรถใหม่ และแนวโน้มการเติบโตของตลาดยานยนต์ทั่วโลกในปี 2569 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่มา : Reuters