ในช่วงที่โลกกำลังเผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้าและกำแพงภาษี ล่าสุดมีข่าวใหญ่ในวงการเซมิคอนดักเตอร์ เมื่อซัมซุง (Samsung) ได้ประกาศปรับลดราคาชิปเวเฟอร์เทคโนโลยีขนาด 2 นาโนเมตร (2nm wafers) ลงอย่างมีนัยสำคัญ จนทำให้ราคาชิปของซัมซุงถูกกว่าของ TSMC คู่แข่งรายสำคัญจากไต้หวันถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเวเฟอร์

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญของซัมซุงในการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจาก TSMC ซึ่งยังครองความเป็นผู้นำในตลาดการผลิตชิปขั้นสูงมายาวนาน โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Apple, AMD หรือ Nvidia ที่ใช้บริการของ TSMC มาโดยตลอด

เบื้องหลังการปรับราคา
สาเหตุหลักมาจากการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในตลาดโลก ทั้งจากการเร่งลงทุนของจีน การเพิ่มกำลังการผลิตของ TSMC เอง และแรงกดดันจากภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ ใช้กับสินค้าด้านเทคโนโลยี ซัมซุงจึงเลือกใช้นโยบาย “หั่นราคา” เพื่อดึงดูดลูกค้ารายใหม่ให้หันมาใช้บริการโรงงานผลิตของตน

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
การที่ราคาชิป 2 นาโนเมตรของซัมซุงถูกกว่าของ TSMC มากถึง 10,000 ดอลลาร์ต่อเวเฟอร์ ถือเป็นแรงกดดันมหาศาลต่อ TSMC ซึ่งอาจต้องพิจารณาปรับราคาหรือหาทางเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อลดต้นทุน มิฉะนั้นอาจเผชิญความเสี่ยงที่ลูกค้ารายใหญ่บางส่วนจะหันไปทดลองใช้บริการของซัมซุงแทน

นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า การแข่งราคาจะช่วยเร่งให้การนำชิปขนาด 2 นาโนเมตรเข้าสู่ตลาดเร็วขึ้น และยังเป็นสัญญาณว่าผู้ผลิตทุกรายต่างกำลังเร่งสร้างความได้เปรียบในยุคที่ความต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น AI, รถยนต์ไฟฟ้า และเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูง กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง