ซัมซุงเดินหน้าแผนการกลับมาทวงบัลลังก์ในตลาดสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมด้วยการเตรียมผลิตชิปเซต Exynos 2600 รุ่นใหม่ ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะเป็นก้าวสำคัญของบริษัทหลังจากที่แผนกเซมิคอนดักเตอร์ต้องเผชิญปัญหามาอย่างต่อเนื่อง รายงานจากสื่อเกาหลีใต้ระบุว่าชิปดังกล่าวจะเป็นชิปรุ่นแรกที่ผลิตบนกระบวนการ 2 นาโนเมตร GAA ของซัมซุงเอง โดยมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ได้อัตราผลิตสำเร็จดีกว่าความพยายามก่อนหน้าบน 3 นาโนเมตร ซึ่งนับเป็นหมุดหมายใหม่ด้านเทคโนโลยีของแบรนด์เกาหลีรายนี้
Exynos 2600 ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับทั้งด้านประสิทธิภาพและการจัดการความร้อน โดยเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ที่มีชื่อว่า Heat Pass Block ซึ่งจะช่วยควบคุมอุณหภูมิและแก้ปัญหาความร้อนสูงที่เคยเป็นจุดอ่อนของ Exynos รุ่นก่อน ๆ ทำให้ซัมซุงหวังจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ด้านความเสถียรและการใช้งานจริงของชิปตระกูลนี้ ข้อมูลจากผลการทดสอบ Geekbench ยังเผยให้เห็นถึงสเปกของชิปรุ่นใหม่ โดยมีแกนหลักความเร็วสูงสุดถึง 3.8GHz เสริมด้วยคอร์ประสิทธิภาพ 3 แกน ที่ความเร็ว 3.26GHz และคอร์ประหยัดพลังงานอีก 6 แกน ที่ความเร็ว 2.76GHz ซึ่งสะท้อนถึงพลังการประมวลผลที่สูงขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
วงการอุตสาหกรรมเชื่อว่าซัมซุงจะใช้ Exynos 2600 ในสมาร์ตโฟน Galaxy S26 บางตลาด ขณะที่บางภูมิภาคยังคงใช้ Snapdragon 8 Elite Gen 5 กลยุทธ์แบบสองชิปนี้จะช่วยให้ซัมซุงลดการพึ่งพา Qualcomm และแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมต้นทุนและการสร้างจุดขายด้านนวัตกรรมที่ซัมซุงผลิตขึ้นเอง
การมาของ Exynos 2600 จึงถูกมองว่าไม่ใช่เพียงการอัปเกรดด้านฮาร์ดแวร์ แต่ยังสะท้อนความพยายามของซัมซุงที่จะสร้างความมั่นใจให้กับตลาดและผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่คู่แข่งอย่าง TSMC เตรียมเข้าสู่การผลิต 2 นาโนเมตรในปลายปี 2025 การก้าวล้ำของซัมซุงอาจช่วยสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ในตลาดโลก และหากสามารถส่ง Galaxy S26 ออกมาในต้นปี 2026 พร้อมชิป Exynos 2600 ได้สำเร็จ ก็อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการยกระดับบทบาทของซัมซุงทั้งในฐานะผู้ผลิตสมาร์ตโฟนและผู้พัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่พร้อมท้าทายคู่แข่งในสมรภูมิโลกอีกครั้ง
ที่มา : gizmochina