เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พบปะหารือทวิภาคีกับผู้บริหารระดับสูงจากบริษัท Syngenta Group ได้แก่ Ms. Alexandra Brand, EVP Sustainability and Corporate Affairs และ Mr. Mark Ball, Global Head of Public Affairs ซึ่งมีการพูดคุยเกี่ยวกับบทบาทของนวัตกรรมในการเกษตรของประเทศไทย พร้อมกับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและความยั่งยืนในภาคเกษตรทั่วโลก

นางนฤมลเปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าการเกษตรที่สำคัญของโลก โดยมีผลผลิตจากภาคเกษตรเป็นส่วนสำคัญในระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน เช่น ความผันผวนของราคาสินค้าเกษตร การขาดแคลนแรงงานที่มีอายุเฉลี่ยสูงขึ้น รวมถึงภัยธรรมชาติที่รุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

"กระทรวงเกษตรฯ มีแนวทางการเตรียมความพร้อมในด้านปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะเมล็ดพันธุ์ ซึ่งไทยมีศักยภาพในการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชเมืองร้อนหลายชนิดและสามารถผลิตได้มากกว่าหนึ่งรอบต่อปี" นางนฤมลกล่าว "ขณะนี้ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกเมล็ดพันธุ์อันดับ 2 ของเอเชีย และอันดับ 9 ของโลก เราหวังว่า Syngenta Group จะร่วมลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เพื่อช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางผลิตเมล็ดพันธุ์พืชคุณภาพสูงของโลก"

การพัฒนาและวิจัยพันธุ์พืชใหม่เพื่อให้สามารถต้านทานสภาพอากาศที่แปรปรวนถือเป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม (Gene-editing) ในการปรับปรุงพันธุ์พืชให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ "ความร่วมมือด้านการวิจัยกับบริษัท Syngenta จึงเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เมล็ดพันธุ์พืชคุณภาพดีในประเทศไทย" นางนฤมลกล่าวเสริม

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังได้มุ่งมั่นในการพัฒนาเกษตรกรรมที่ยั่งยืนภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งให้ความสำคัญกับการผลิตที่ยั่งยืนทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัย โภชนาการ และการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูง เช่น กาแฟ โกโก้ และถั่วเหลือง เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกร

"การเปลี่ยนแปลงจากเกษตรกรรมดั้งเดิมที่ 'ผลิตมาก แต่สร้างรายได้น้อย' ไปสู่เกษตรสมัยใหม่ที่ 'ผลิตน้อย แต่สร้างรายได้มาก' เป็นเป้าหมายที่เรามุ่งหวัง โดยมีการสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้การช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยในการเข้าถึงแหล่งทุน" นางนฤมลกล่าว

บริษัท Syngenta Group ได้แสดงความยินดีที่ได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯ ของไทย และยืนยันว่าจะมีแผนการเดินทางมาเยือนไทยในเร็ว ๆ นี้ เพื่อหารือและผลักดันการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาพันธุ์พืชที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ รวมถึงการยกระดับการผลิตเกษตรอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในระดับโลก

ยกระดับความมั่นคงอาหารโลก
ด้วยการนำเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ เช่น เกษตรแม่นยำ, เกษตรอัจฉริยะ, และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไทยมีโอกาสที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนาอาหารที่ยั่งยืนและช่วยสนับสนุนการสร้างความมั่นคงด้านอาหารในระดับโลก