(29 มกราคม 2568) – รัฐบาลไทยเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์อย่างเข้มงวด ก่อนที่พระราชกำหนดว่าด้วยความมั่นคงทางไซเบอร์จะมีผลบังคับใช้ในเดือนหน้า โดยนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชน พร้อมออกคำเตือนให้ระมัดระวังภัยจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะกลลวงทางออนไลน์ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก

เตือนภัย! 22 เว็บไซต์อันตราย ห้ามเข้าชม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบพบว่ามีเว็บไซต์ปลอมจำนวน 22 แห่ง ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยเว็บไซต์เหล่านี้มักใช้กลยุทธ์ในการหลอกลวงผู้ใช้ เช่น เสนอผลตอบแทนสูงจากการลงทุน ชวนหารายได้เสริม หรือสร้างแรงจูงใจให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ซึ่งอาจนำไปสู่การโจรกรรมทางการเงินหรือข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ตำรวจไซเบอร์ได้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงต้องเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากยังมีเว็บไซต์อันตรายอื่น ๆ ที่ยังเปิดใช้งานอยู่และมีเซิร์ฟเวอร์อยู่นอกประเทศ

แนวทางป้องกันตัวจากมิจฉาชีพออนไลน์

นายคารม เน้นย้ำว่า ประชาชนไม่ควรคลิกเข้าเว็บไซต์ที่ได้รับจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ห้ามดาวน์โหลดไฟล์หรือข้อความจากบุคคลที่ไม่รู้จัก และห้ามกรอกข้อมูลส่วนตัวบนแพลตฟอร์มที่ไม่มั่นใจ นอกจากนี้ ควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับภัยไซเบอร์อย่างสม่ำเสมอ และหากพบพฤติกรรมที่น่าสงสัย สามารถแจ้งเบาะแสไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที

“อาชญากรไซเบอร์มักใช้วิธีล่อลวงให้เหยื่อตกหลุมพรางด้วยคำโฆษณาที่ดูน่าเชื่อถือและให้ผลตอบแทนสูง เราขอให้ประชาชนมีสติและตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลก่อนตัดสินใจทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ” นายคารมกล่าวทิ้งท้าย

รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องประชาชนจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ และขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

ที่มา : thaigov