ตำรวจ ปส. ร่วมกับทหารหน่วยนบ.ยส.35 ได้ปฏิบัติการตรวจยึดยาบ้าจำนวนมหาศาลถึง 7,990,000 เม็ด จากการลักลอบขนยาเสพติดผ่านเส้นทางชายแดนภาคเหนือ โดยขบวนการค้ายาเสพติดได้ใช้วิธีการขนส่งที่ซับซ้อนผ่านหลายจังหวัดก่อนจะมุ่งหน้าไปยังภาคกลาง การจับกุมเกิดขึ้นที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจค้นรถขนยาบ้าจำนวนมาก พร้อมผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้งหมด 6 คน โดยที่ไม่มีการต่อสู้ขัดขืน นับเป็นการปราบปรามยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพในระดับสูง

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขยายผลการจับกุม อีกหนึ่งคดีที่ตำรวจ ปส. ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลางและทหาร ได้ขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า ไอซ์ และคีตามีนจำนวนมากจากจังหวัดชลบุรี การสืบสวนทราบว่า ขบวนการค้ายาเสพติดได้ใช้เส้นทางหลบหนีผ่านหลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง กำแพงเพชร นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี และอ่างทอง ก่อนมุ่งหน้าสู่พระนครศรีอยุธยา ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ยังสามารถยึดรถขนยาเสพติดได้อีก 3 คัน รวมถึงยาบ้าที่ถูกบรรจุในรถบรรทุก 6 ล้อที่มีการซุกซ่อนข้าวโพดไว้เป็นอำพราง ขณะเดียวกันยังมีผู้ต้องหาจำนวน 6 คนที่ถูกจับกุม พร้อมรถขบวนขนยาเสพติดและของกลางที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)

การจับกุมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่องของตำรวจ ปส. โดยมีกำหนดแนวทางการปราบปรามอย่างเข้มข้นตามนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนการปราบปรามยาเสพติดในระดับประเทศ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. ได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน ขบวนการค้ายาเสพติดที่ถูกจับกุมมีจำนวนทั้งสิ้น 524 คดี พร้อมจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 520 คน โดยของกลางที่ยึดได้ประกอบด้วย ยาบ้า 134,797,295 เม็ด ไอซ์ 11,313 กิโลกรัม เฮโรอีน 107 กิโลกรัม คีตามีน 509 กิโลกรัม และยาอีอีก 575 เม็ด ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่และสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ

การยึดทรัพย์สินจากขบวนการค้ายาเสพติดก็มีความสำคัญ โดยมีการอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 1,384 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามในการขจัดขบวนการค้ายาเสพติดที่สามารถกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศได้ ตำรวจ ปส. ยังคงเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่ระบาดในสังคม และสนับสนุนการพัฒนาชุมชนที่ปลอดภัยและปราศจากยาเสพติด

ขณะเดียวกันการจับกุมครั้งนี้ยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งตำรวจ ทหาร และ ป.ป.ส. ในการต่อสู้กับขบวนการค้ายาเสพติด ที่ไม่เพียงแต่เป็นภัยต่อสังคมในแง่ของอาชญากรรม แต่ยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการเสริมสร้างสังคมที่ยั่งยืนในระยะยาว