สหรัฐอเมริการะงับการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับยูเครน กดดันให้เข้าสู่การเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย
วันที่โพสต์: 6 มีนาคม 2568 16:22:25 การดู 1 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา จอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (CIA) เปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกาได้ตัดสินใจระงับการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับยูเครน การตัดสินใจนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สร้างแรงกดดันให้กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน เพื่อให้ยอมร่วมเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย การตัดสินใจดังกล่าวมีความสำคัญเนื่องจากการระงับข้อมูลข่าวกรองมีผลกระทบต่อความสามารถของยูเครนในการป้องกันตนเองจากการโจมตีของรัสเซีย ข้อมูลที่สหรัฐเคยแบ่งปันให้แก่ยูเครนมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือในการโจมตีและการป้องกันในช่วงการรุกรานของรัสเซีย รวมถึงการช่วยขัดขวางความพยายามของรัสเซียในการยึดครองเคียฟในช่วงต้นของการรุกรานเมื่อปี 2022
การระงับข้อมูลข่าวกรองนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐได้ประกาศระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนในวันจันทร์ที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีที่เข้มงวดขึ้นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่เริ่มแสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียมากขึ้นหลังจากที่เคยสนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขันในช่วงต้น การตัดสินใจนี้ถูกมองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในแนวทางการดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ ซึ่งมีเป้าหมายให้ยูเครนพิจารณาการเจรจาเพื่อยุติสงคราม โดยไม่พึ่งพาความช่วยเหลือจากสหรัฐในการต่อสู้กับรัสเซียอีกต่อไป
ในส่วนของความช่วยเหลือทางทหารและข้อมูลข่าวกรอง มีการระบุว่า สหรัฐได้หยุดการสนับสนุนทั้งในด้านข้อมูลเป้าหมายที่ยูเครนใช้ในการโจมตีรัสเซีย และการให้ข้อมูลข่าวกรองในบางส่วน อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวบางรายกล่าวว่า การแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองไม่ได้ถูกระงับทั้งหมด แต่ยังคงมีการแบ่งปันข้อมูลบางส่วนต่อไป
ความตึงเครียดระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และเซเลนสกีทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในการประชุมที่ห้องทำงานรูปไข่ ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีการปะทะคารมกันอย่างเปิดเผย ทำให้การลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับแร่หายากที่เคยมีแผนจะลงนามล่าช้าออกไป การประชุมดังกล่าวสะท้อนถึงความแตกต่างในท่าทีระหว่างทั้งสองผู้นำและท่าทีของสหรัฐต่อยูเครนในตอนนี้
ในขณะเดียวกัน สมาชิกพรรคเดโมแครตได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การระงับการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองของรัฐบาลทรัมป์ โดยมาร์ก วอร์เนอร์ รองประธานคณะกรรมการข่าวกรองวุฒิสภา กล่าวว่า การตัดสินใจนี้เป็น “การตัดสินใจที่ไม่ฉลาด” ซึ่งจะนำไปสู่การสูญเสียชีวิตและเป็นการมอบอำนาจบางส่วนให้กับรัสเซีย โดยระบุว่า การระงับการสนับสนุนด้านข่าวกรองกับยูเครนอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตของผู้คนในยูเครน
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของสหรัฐดูเหมือนจะได้ผลเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยในวันที่ 4 มีนาคมว่า เขาได้รับจดหมายจากประธานาธิบดีเซเลนสกี ซึ่งระบุว่า ยูเครนมีความมุ่งมั่นที่จะกลับมาร่วมเจรจา และทำข้อตกลงเกี่ยวกับแร่หายาก การส่งจดหมายดังกล่าวถือเป็นสัญญาณว่า ยูเครนอาจจะยอมรับการประนีประนอมและเข้าสู่การเจรจาเพื่อยุติสงครามกับรัสเซีย
แท็ก: ยูเครน สหรัฐอเมริกา เจรจาสันติภาพ