คณะรัฐมนตรี (ครม.) เตรียมพิจารณามาตรการลดค่าไฟฟ้าในการประชุมวันนี้ (11 มี.ค. 2568) โดยกระทรวงพลังงานเสนอแนวทางปรับลดค่าไฟลง 17 สตางค์ต่อหน่วย จากอัตราปัจจุบันที่ 4.15 บาทต่อหน่วย เหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 4 บาทเป็นครั้งแรกในรอบปี ซึ่งเป็นมาตรการที่รัฐบาลผลักดันเพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน หลังจากที่ในช่วงปีที่ผ่านมา ค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาคธุรกิจเป็นวงกว้าง

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การลดค่าไฟฟ้าในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กระทรวงพลังงานได้พิจารณาปัจจัยหลายด้าน รวมถึงต้นทุนเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งมีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นส่วนสำคัญ นอกจากนี้ ยังมีแนวทางการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงจากฟอสซิลที่มีต้นทุนสูง

นอกจากมาตรการลดค่าไฟในรอบนี้ รัฐบาลยังอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นโครงการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยและผู้มีรายได้น้อย รวมถึงการศึกษาปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าในระยะยาวให้เกิดความเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งแนวทางเหล่านี้จะช่วยให้ค่าไฟไม่ผันผวนและลดต้นทุนด้านพลังงานของประเทศในอนาคต

การลดค่าไฟฟ้าเป็นหนึ่งในนโยบายที่อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร เคยให้ข้อมูลว่า มีแนวทางดำเนินการได้ และรัฐบาลชุดปัจจุบันกำลังเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด หากที่ประชุม ครม. ให้ความเห็นชอบ คาดว่ามาตรการนี้จะประกาศใช้ในเร็ว ๆ นี้ และมีผลต่อการคิดอัตราค่าไฟฟ้าในรอบถัดไป ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม