Apple เตรียมเปิดตัว iOS 27 ด้วยแนวทางที่แตกต่างจากหลายปีที่ผ่านมา โดยไม่เน้นฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำเหมือนทุกครั้ง แต่กลับให้ความสำคัญกับความเสถียรและประสิทธิภาพของระบบทั้งหมด รายงานล่าสุดจาก Mark Gurman ระบุว่า iOS 27 จะเน้นปรับปรุงพื้นฐานของระบบ ตั้งแต่แก้บั๊ก ปรับโค้ดเก่า ลดความซับซ้อน และเพิ่มความเร็วในการทำงาน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน iPhone ได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

การอัปเดตครั้งนี้เปรียบเสมือนการนำแนวทาง Snow Leopard ของ Mac OS X มาปรับใช้กับมือถือ โดย Apple ตั้งใจฟื้นฟูคุณภาพของระบบปฏิบัติการตั้งแต่รากฐาน เพื่อแก้ปัญหาที่สะสมมาหลายเวอร์ชัน ทั้งปัญหาโค้ดเก่าที่ทำงานซ้ำซ้อนหรือฟีเจอร์ที่ถูกใช้งานน้อย และเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอุปกรณ์รุ่นใหม่

แม้ iOS 27 จะเน้นความเสถียร แต่ Apple ยังไม่ละเลยด้าน AI โดย Siri จะได้รับการออกแบบใหม่ให้ตอบสนองแบบธรรมชาติและเข้าใจคำสั่งซับซ้อนหลายขั้นตอนได้ดียิ่งขึ้น พร้อม Avatar สำหรับการโต้ตอบที่เป็นมิตรมากขึ้น ส่วนระบบค้นหา AI แบบ “World Knowledge Answers” จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบแบบสรุปโดยไม่จำเป็นต้องเปิดเว็บ และสามารถตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับอาหาร ข้อมูลสถานที่ หรือคำอธิบายข่าวได้ทันที แอป Health และ Health+ จะเพิ่มฟีเจอร์ AI Coaching วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพประจำวัน แนะนำการออกกำลังกาย ปรับพฤติกรรมการนอน การหายใจ และติดตามโภชนาการให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

เบื้องหลัง Apple ใช้โมเดล AI Gemini ที่ปรับแต่งเฉพาะตัวด้วยพารามิเตอร์มากกว่า 1.2 ล้านล้านพารามิเตอร์ เพื่อยกระดับ Siri ให้เป็นผู้ช่วย AI ที่แข่งขันกับคู่แข่งได้เต็มตัวในอนาคต การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงจังของ Apple ในการพัฒนาระบบ AI ระดับสูง

ผู้ใช้ iPhone รุ่นเก่า เช่น iPhone 12, 13 และ 14 จะสามารถรับประโยชน์จากระบบที่เบาและเสถียรขึ้น ทำให้การตอบสนองเร็วขึ้นและลดปัญหาเครื่องค้าง แอปเด้ง หรือแบตเตอรี่หมดเร็ว ส่วนผู้ที่ใช้ iPhone ยาว 3–5 ปี จะเห็นว่าเครื่องทนต่อการอัปเดตในอนาคตมากขึ้น และผู้ที่สนใจ AI จะสามารถใช้ Siri และระบบค้นหาที่ฉลาดขึ้นในชีวิตประจำวัน

iOS 27 แม้อาจไม่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่หวือหวา แต่ถือเป็นอัปเดตที่จำเป็นที่สุดในรอบหลายปี เพราะเน้นปรับปรุงรากฐานของระบบ ลดความซับซ้อน ยกระดับความเสถียร และเปิดทางให้ AI ทำงานได้เต็มศักยภาพ ทำให้ iPhone ทำงานได้ราบรื่นและเชื่อถือได้มากขึ้นสำหรับผู้ใช้ทุกคน

ที่มา: wccftech