กรุงโซล, 14 กันยายน – เกิดความเคลื่อนไหวสำคัญทางการทูต หลังจากเหตุการณ์บุกตรวจคนเข้าเมืองในสหรัฐฯ ที่ควบคุมแรงงานชาวเกาหลีใต้หลายร้อยคน กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้เปิดเผยว่า คริสโตเฟอร์ แลนเดา รองรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้แสดง “ความเสียใจ” ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมเสนอให้ใช้วิกฤตครั้งนี้เป็น “จุดเปลี่ยน” เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นขึ้น
การพบหาระหว่างแลนเดาและ พัค ยุนจู รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเกาหลีใต้ มีการหยิบยกแนวทางติดตามผล ทั้งการจัดทำแนวปฏิบัติด้านวีซ่าที่ชัดเจน และการพิจารณาเปิด “ประเภทวีซ่าใหม่” สำหรับแรงงานและผู้เชี่ยวชาญเกาหลีใต้ที่เข้ามามีบทบาทในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทเกาหลีในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์และแบตเตอรี่
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แรงงานชาวเกาหลีใต้ราว 300 คนที่ถูกกักตัวจากโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของ Hyundai Motor ในรัฐจอร์เจียได้เดินทางกลับบ้าน ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเต็มไปด้วยน้ำตา เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างแรงสะเทือนทางสังคมในเกาหลีใต้ซึ่งถือเป็นพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ
แลนเดาระบุว่า วอชิงตันและโซลควรเร่งหารือในระดับปฏิบัติการเพื่อให้การออกวีซ่าสอดคล้องกับบทบาทและคุณค่าที่แรงงานเกาหลีใต้มีต่อเศรษฐกิจอเมริกัน พร้อมยกย่องการลงทุนจากเกาหลีว่าเป็นแรงขับสำคัญในการฟื้นฟูภาคการผลิตของสหรัฐฯ
ด้านพัค ยุนจู กล่าวว่าการเยือนครั้งนี้ของแลนเดาถือว่า “มาตรงเวลา” เพราะเป็นช่วงที่ความรู้สึกของประชาชนเกาหลีใต้ยังคุกรุ่นต่อกรณีดังกล่าว ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นว่าแรงงานเกาหลีใต้ที่เกี่ยวข้องจะไม่ถูกลงโทษหรือเสียสิทธิ์ หากมีการเดินทางกลับเข้าสหรัฐฯ อีกครั้ง