Elon Musk เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่า xAI สตาร์ตอัปด้านปัญญาประดิษฐ์ที่เขาก่อตั้ง ได้เข้าซื้ออาคารแห่งที่สามเพื่อใช้ในการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการเพิ่มขีดความสามารถในการฝึกโมเดลให้มีพลังประมวลผลรวมเกือบ 2 กิกะวัตต์ (Gigawatts) ซึ่งถือเป็นระดับพลังงานที่เทียบเท่าการใช้ไฟฟ้าของเมืองขนาดใหญ่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนถึงความทะเยอทะยานของ xAI ในการเร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI ขั้นสูง เพื่อแข่งขันโดยตรงกับผู้นำตลาดอย่าง ChatGPT ของ OpenAI และ Claude ของ Anthropic ซึ่งกำลังขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก โดย Musk ระบุผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า อาคารแห่งที่สามนี้มีชื่อว่า “MACROHARDRR” แต่ไม่ได้เปิดเผยตำแหน่งที่ตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งชื่อดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเล่นคำที่พาดพิงถึง Microsoft บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในวงการ AI
ก่อนหน้านี้ สื่อด้านเทคโนโลยีอย่าง The Information รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเอกสารทรัพย์สินและแหล่งข่าวใกล้ชิดกับโครงการว่า อาคารดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนสร้าง ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ขนาดใหญ่แห่งที่สาม ซึ่งมีแผนตั้งอยู่นอกเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะเป็นการต่อยอดโครงการซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ xAI ที่มีชื่อว่า Colossus
Colossus ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเมมฟิส ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในคลัสเตอร์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ด้าน AI ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหัวใจหลักของการฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ของ xAI โดยรายงานระบุว่า บริษัทมีแผนขยาย Colossus ให้สามารถรองรับ หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) อย่างน้อย 1 ล้านตัว ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการฝึกโมเดล AI รุ่นถัดไปที่มีความซับซ้อนสูงขึ้นอย่างมาก
The Information ยังระบุเพิ่มเติมว่า xAI มีแผนจะเริ่มปรับปรุงโกดังที่เพิ่งซื้อมาให้กลายเป็นศูนย์ข้อมูลเต็มรูปแบบในปี 2026 โดยศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่นี้ รวมถึงโครงการ Colossus 2 จะตั้งอยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติที่ xAI กำลังก่อสร้างในพื้นที่เดียวกัน นอกจากนี้ยังมีแหล่งพลังงานอื่น ๆ รองรับ เพื่อให้สามารถจ่ายไฟได้อย่างต่อเนื่องและเพียงพอต่อการใช้งาน AI ขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม การขยายโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในระดับนี้ ได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่องจากศูนย์ข้อมูลและซูเปอร์คอมพิวเตอร์ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในปริมาณมหาศาล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบพลังงานในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่หลายประเทศกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านพลังงานและการลดการปล่อยคาร์บอน
ทั้งนี้ xAI ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นอย่างเป็นทางการต่อคำถามจาก Reuters เกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือรายละเอียดเชิงลึกของโครงการ แต่การลงทุนครั้งใหญ่นี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรม AI กำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ “สงครามโครงสร้างพื้นฐาน” ที่ไม่เพียงวัดกันด้วยคุณภาพของโมเดลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพลังประมวลผล พลังงาน และขนาดของระบบเบื้องหลังอีกด้วย
การขยายตัวของ xAI ในครั้งนี้ จึงไม่เพียงเป็นการตอกย้ำบทบาทของ Elon Musk ในสนามแข่งขัน AI ระดับโลก แต่ยังเป็นสัญญาณว่าการพัฒนา AI ขั้นสูงในอนาคต จะต้องอาศัยการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และอาจเปลี่ยนสมดุลของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ที่มา : reuters